Climate Change ส่งผลกระทบต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติทั่วโลก ในการป้องกันและบรรเทาผลกระทบ หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าการลงทุนในตราสารหนี้บางประเภทก็ช่วยได้เช่นกัน
- Green Bond ถือเป็นตราสารหนี้ที่ช่วยลดปัญหา Climate Change โดยตรง เพราะมุ่งลดคาร์บอนฟุตปรินต์ และการใช้พลังงาน โดยให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับหุ้นกู้ทั่วไป หรือต่ำกว่าเล็กน้อย
- ตราสารหนี้เพื่อภัยพิบัติ หรือ CAT Bond เป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทประกันภัย โดยมีจุดประสงค์เพื่อชดเชยความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติในหัวข้อที่กำหนดไว้ อาจเป็นทอร์นาโด ใต้ฝุ่น หรือภัยพิบัติอื่น
- CAT Bond ให้ผลตอบแทนสูงกว่าตราสารหนี้อื่นในตลาด มักมีอายุการถือไม่เกิน 3 ปี และมีเงื่อนไขสำคัญคือ หากไม่เกิดภัยพิบัติตามที่ระบุไว้ นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนพร้อมดอกเบี้ยตามที่ระบุไว้ในสัญญา แต่ถ้าเกิดภัยพิบัตินั้นๆ ขึ้น เงินลงทุนจะถูกหักเพื่อใช้ในการบรรเทาภัยพิบัติเป็นขั้นๆ ตามที่ระบุไว้ CAT Bond จึงมีความเสี่ยงในการเสียการลงทุน
- Climate Change อาจไม่เกี่ยวข้องกับ CAT Bond โดยตรง และมีผู้รับผลประโยชน์ทางตรงคือบริษัทประกันภัย แต่ในขณะเดียวกัน ภาระการบรรเทาภัยพิบัติเป็นของรัฐบาลแต่ละประเทศด้วย ถ้าบริษัทประกันสามารถจ่ายค่าชดเชยได้อย่างครอบคลุม ก็จะช่วยลดภาระในส่วนนี้ไปได้
Climate Change กับตราสารหนี้ที่สามารถช่วยได้
Climate Change หรือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่เกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ เป็นประเด็นที่หลายฝ่ายหยิบยกขึ้นมาพูดคุย เพราะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม เป็นส่วนหนึ่งของการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไฟป่าออสเตรเลียที่ลุกลามเกินการควบคุม หรือแม้แต่ภูเขาไฟตาอัลที่ปะทุขึ้นในประเทศฟิลิปปินส์ก็อาจเกี่ยวข้องกับภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเช่นกัน เชื่อหรือไม่ว่าในมุมของการลงทุน เราสามารถบรรเทาความรุนแรงของภัยพิบัติเหล่านี้ได้ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินได้ด้วย
Climate Change กับภัยพิบัติทางธรรมชาติ
การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ปลุกกระแสสำนึกรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมของผู้คนในทุกพื้นที่ทั่วโลก เราได้เห็นด้านเลวร้ายของสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นภาพหมีขาวผอมโซคุ้ยขยะหาอาหารกิน น้ำแข็งละลายจนเห็นศพนักปีนเขาจำนวนมากบนเทือกเขาเอเวอร์เรสต์ หรือข่าวการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้เป็นทั้งความโหดร้ายและความจริงที่ตอกย้ำให้เราทราบว่าโลกของเรากำลังเสียสมดุล
ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่เราสามารถมองเห็นได้จากสิ่งต่าง ๆ รอบตัว แต่ในขณะเดียวกัน ก็เกิดปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่ผิดปกติไปทั่วโลก เช่นปรากฏการณ์ Polar Vortex ในปี 2019 ที่พายุหิมะถล่มประเทศสหรัฐอเมริกาจนทำให้อากาศติดลบถึง 50 องศา ส่งผลให้พืชผลทางการเกษตรเสียหายเป็นจำนวนมาก หรืออย่างในประเทศไทยเอง เราพบทั้งภัยแล้งและภัยน้ำท่วมในเวลาเดียวกัน
นับเป็นเรื่องดี ที่หลายฝ่ายเริ่มหันมาตระหนักถึงความร้ายแรงของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เราจึงได้เห็นการรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อม เช่นการลดใช้ถุงพลาสติก การประหยัดพลังงาน หรือด้านเลวร้ายของสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป หรือการปลูกฝังที่ยั่งยืนกว่าเช่นการเปิดสอนวิชาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศให้กับเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาในอิตาลี
แสดงให้เห็นว่า นอกเหนือจากการรับมือกับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงแล้ว ยังต้องมีแผนเพื่อรับมือกับภัยพิบัติที่คาดไม่ถึงอีกด้วย ซึ่งการป้องกันและบรรเทาจากรัฐบาลเพียงอย่างเดียวอาจไม่ครอบคลุมต่อการจัดการผลกระทบทั้งหมด จึงต้องได้รับการแบ่งเบาจากภาคเอกชนร่วมด้วย ซึ่งหนึ่งในวิธีสร้างการมีส่วนร่วมในการดูแลสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ที่องค์กรเอกชนสามารถทำได้คือการออกตราสารหนี้หรือหุ้นกู้เพื่อระดมทุนจากนักลงทุน
การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศกับตราสารหนี้สีเขียว Green Bond
ตราสารหนี้สีเขียว หรือ Green Bond เป็นตราสารหนี้ที่ออกมาเพื่อมุ่งลดคาร์บอนฟุตปรินต์ให้กับโลกนี้ อาจเป็นได้ทั้งภาคการขนส่ง ภาคผลิตและอุตสาหกรรม เพียร์ พาาวเวอร์ เคยเขียนถึง Green Bond อย่างละเอียดไว้แล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งกล่าวโดยสรุปได้ว่าตราสารหนี้สีเขียวคือ ตราสารหนี้ที่ออกมาเพื่อโครงการที่มีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น โดยมีระยะเวลาการถือหุ้นกู้ในระยะสั้นหรือยาวก็ได้ และอาจมีผลตอบแทนเท่ากับหรือต่ำกว่าผลตอบแทนจากหุ้นกู้เอกชนเล็กน้อย เพราะถือว่าสร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อธรรมชาติ ซึ่งชดเชยผลตอบแทนที่จ่ำกว่าเล็กน้อยนั้นไปแล้ว
การจ่ายผลตอบแทนของ Green Bond ไม่ต่างจากตราสารหนี้หรือหุ้นกู้ทั่วไป คือให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยและชำระคืนเงินต้นเมื่อครบกำหนดไถ่ถอน ความเสี่ยงในการลงทุนกับ Green Bond จึงไม่ต่างจากการลงทุนในหุ้นกู้อื่น เพียงแต่มีผลตอบแทนในการช่วยแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เพิ่มเข้ามาด้วยนั่นเอง
Green Bond ถือว่ามีส่วนช่วยแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในแง่ของการลดใช้ทรัพยากร ลดการสร้างมลภาวะ และทำร้ายสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้เกิดขึ้นกับโลกของเราต่อไปในอนาคต ผู้้ได้รับผลประโยชน์จาก Green Bond จึงไม่ใช่เพียงนักลงทุน แต่เป็นสังคมและโลกนี้โดยรวม
การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศกับตราสารหนี้เพื่อภัยพิบัติ CAT Bond
ในหลายประเทศความเสียหายจากภัยพิบัติได้รับการคุ้มครองโดยประกันวินาศภัย แต่เมื่อเกิดภัยพิบัติใหญ่ ๆ ที่มีความเสียหายเป็นวงกว้างขึ้น บริษัทประกันเองก็ไม่มีเงินมากพอจะคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งอาจเป็นเหตุให้บริษัทล้มละลาย และผู้ประสบภัยไม่ได้รับการคุ้มครองตามที่ระบุไว้ในสัญญา เพื่อลดความเสี่ยงทั้งสองด้าน และสามารถแบ่งเบาความรับผิดชอบของรัฐบาลได้อย่างเต็มที่ บริษัทประกันภัยจึงต้องหาทางกระจายความเสี่ยงนี้ไปที่อื่น นั่นคือการหาเงินเพิ่มเพื่อรองรับในส่วนนี้ ตราสารหนี้เพื่อภัยพิบัติ หรือ CAT Bond จึงเกิดขึ้น
CAT Bond เกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงยุค 90 เมื่อเฮอร์ริเคนแอนดรูว์พัดถล่มสหรัฐอเมริกา สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างจนบริษัทประกันภัยหลาย ๆ บริษัทล้มละลายโดยยังไม่ทันจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้เอาประกัน ทำให้ภาระในการฟื้นฟูประเทศในส่วนนี้ตกเป็นของรัฐบาลไปด้วย ด้วยบทเรียนในครั้งนี้ ทำให้บริษัทประกันออกตราสารหนี้เพื่อภัยพิบัติ CAT Bond ขึ้นมา
CAT Bond คืออะไร
ตราสารหนี้เพื่อภัยพิบัติ หรือ CAT Bond คือตราสารหนี้ที่บริษัทประกันภัยเป็นผู้ออกเพื่อขอระดมทุนจากนักลงทุน โดยมีเงื่อนไขว่าจะใช้เงินที่ระดมทุนได้นี้หากเกิดภัยพิบัติร้ายแรงอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้น เช่น แผ่นดินไหว พายุทอร์นาโด ภูเขาไฟระเบิด สึนามิ เป็นต้น หากเกิดภัยพิบัติเหล่านี้ขึ้น เงินต้นที่ใช้ลงทุนจะถูกหักไปใช้ในการชดเชยและบรรเทาความเสียหายอันเกิดขึ้นจากภัยธรรมชาตินั้น ซึ่งจะหักเป็นขั้น ๆ ตามข้อตกลง ซึ่งหมายความว่า ในการลงทุนกับ CAT Bond นักลงทุนมีโอกาสที่จะไม่ได้เงินลงทุนคืน ด้วยความเสี่ยงดังกล่าว ทำให้ผลตอบแทนจากตราสารหนี้ชนิดนี้ สูงกว่าหุ้นกู้เอกชนทั่วไปและมีระยะเวลาในการถือจนครบกำหนดไถ่ถอน(Maturity) ในระยะเวลาสั้น ๆ คือมักจะไม่เกิน 3 ปี แต่ถ้าไม่เกิดภัยพิบัติที่ระบุไว้ นักลงทุนจะได้รับการชำระหนี้และผลตอบแทนครบจำนวนเหมือนตราสารหนี้ทั่วไป
CAT Bond เป็นประโยชน์กับใคร
ถ้าดูตามความหมายที่อธิบายไปข้างต้น ผู้ที่ได้ประโยชน์จาก CAT Bond โดยตรงคือบริษัทประกันที่เป็นผู้ออกหุ้นกู้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากเกิดภัยธรรมชาติที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง นอกจากความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนแล้ว สาธารณูปโภคต่าง ๆ และการเยียวยาหลังเหตุการณ์จะตกเป็นภาระของรัฐบาลทันที การลงทุนใน CAT Bond นอกจากจะเป็นการช่วยแบ่งปันความเสี่ยงของบริษัทประกันภัยแล้ว ยังเป็นการช่วยผลักดันให้ประเทศได้รับการฟื้นฟูเร็วขึ้น
Climate Change กับการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
แม้จะมีผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ที่ออกมาเพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ แต่ทั้ง Green Bond และ Cat Bond ก็ยังมีนักลงทุนเป็นกลุ่มนักลงทุนสถาบันมากกว่าบุคคลทั่วไป อาจด้วยมูลค่าการเสนอขายหรือเงื่อนไขในการลงทุนที่ซับซ้อนกว่า จึงอาจเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับนักลงทุนทั่วไป ดังนั้นถ้าคุณต้องการช่วยลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอาจเริ่มได้จากสิ่งเล็ก ๆ เช่นการสนับสนุนการแก้ปัญหาในระดับที่ทำได้จริง เช่นการลดใช้ถุงพลาสติก สนับสนุนการใช้พลังงานทางเลือก ลดใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นต้น และถ้าอยากลงทุนกับธุรกิจขนาดกลางและย่อมเพื่อกระจายความเสี่ยงทางการลงทุน และสนับสนุนการเพิ่ม GDP อันจะทำให้ประเทศไทยเติบโตพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ลองลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงกับเพียร์ พาวเวอร์ได้เลย
_______________________________________________________________________
คำเตือน : การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงผ่านเพียร์ พาวเวอร์ เป็นการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจเพียงพอทั้งด้านความเสี่ยง และความสามารถในการตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง ความเสี่ยงในที่นี้หมายถึงความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของหลักทรัพย์และความเสี่ยงในการสูญเสียเงินจากการลงทุน การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงเป็นการลงทุนที่เหมาะสมกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุน นักลงทุนจะสามารถเริ่มลงทุนได้ต่อก็ต่อเมื่อนักลงทุนทำการลงทะเบียนและผ่านแบบประเมินความรู้ความเข้าใจในการลงทุนแล้ว