ทำไมต้องกระจายความเสี่ยงด้วยคราวด์ฟันดิง ‍

บางคนคิดว่าการลงทุนที่ปลอดภัยคือต้องไม่ขาดทุนสักบาท เลยลงทุนในสินทรัพย์ที่เน้นความมั่นคงเป็นหลัก พอครบเวลามาดูผลตอบแทนถึงรู้ว่าที่ลงทุนไปทั้งหมดให้กำไรไม่เท่าไหร่ถ้าเทียบกับสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป

‍

ดังนั้นบล็อกนี้เราเลยจะมาคุยเกี่ยวกับการกระจายความเสี่ยงด้วยคราวด์ฟันดิง สินทรัพย์ private asset นอกตลาดที่แม้จะไม่ผันผวนเหมือนกราฟหุ้นแต่ก็มีความเสี่ยงด้านอื่น ๆ ที่ต้องบริหารจัดการเช่นกัน 

‍

ปลอดภัยจริงเหรอถ้าลงทุนแค่สินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ? 

สินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำมีจุดขายอยู่ที่ความมั่นคง แต่ก็มาพร้อมอัตราผลตอบแทนต่ำเช่นกัน ซึ่งสิ่งนี้อาจทำให้เกิด Shortfall Risk หากเราไม่ได้บริหารพอร์ตอย่างรัดกุม 

Shortfall risk คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากมุมมองการลงทุนที่แคบ ผลคือแผนการลงทุนที่ไม่รัดกุมจนทำให้ได้เงินไม่พอตามเป้าหมายที่หวัง 

ลองจินตนาการว่าเรามีพอร์ตลงทุนที่ประกอบด้วย ดอกเบี้ยเงินฝาก ธนบัตรรัฐ หุ้นกู้ อาจมีหุ้น blue chips แทรกมาบ้างแต่เน้นของที่มีความเสี่ยงต่ำเป็นหลัก แน่นอนว่าคงอุ่นใจ แต่ถ้ามาดูพอร์ตจริง ๆ อาจพบว่าทั้งหมดนี้ให้ผลตอบแทนที่น้อยกว่าที่คิด ถ้าเรามีเป้าหมายจะเก็บเงินใช้ตอนเกษียณผลตอบแทนตรงนี้อาจไม่พอ 

ดังนั้นนักลงทุนจึงควรเปิดโอกาสให้มีสินทรัพย์ผลตอบแทนสูงมาแทรกในพอร์ตบ้าง แต่ทั้งนี้ก็ต้องประเมินความเสี่ยงให้ครบรอบด้านก่อนกดลงทุน และลงทุนแค่เท่าที่รับไหวเพื่อบริหารความเสี่ยงให้อยู่ในจุดที่ตัวเองสบายใจ

‍

สินทรัพย์คราวด์ฟันดิงมีความเสี่ยงอะไรบ้าง 

คราวด์ฟันดิงเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง ระยะลงทุนสั้น ไม่ผันผวนตามตลาด แต่มีความเสี่ยงเช่นกัน 

สาเหตุเป็นเพราะคราวด์ฟันดิง คือการที่บริษัทเอกชนมาขอระดมทุนหรือกู้ยืมนอกตลาดหลักทรัพย์จากนักลงทุนทั่วไป สิ่งนี้เรียกว่าการระดมทุนใน private market 

เพื่อที่จะจูงใจ บริษัทจึงออกหุ้น-หุ้นกู้คราวด์ฟันดิงที่ให้ผลตอบแทนสูงและอายุลงสั้นมาเป็นข้อเสนอ นักลงทุนได้ประโยชน์ที่จ่ายดอกเร็ว ส่วนบริษัทก็มีเงินมาทำธุรกิจ

จุดแข็งของคราวด์ฟันดิงจึงเป็นการที่สินทรัพย์นี้อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ เป็น private asset ที่ให้ผลตอบแทนคงที่ (fix rate) สิ่งนี้จึงไม่ผันผวนหรือมีอัตราความผันผวนที่ต่ำมาก

นักลงทุนบางส่วนจึงใส่คราวด์ฟันดิงเพื่อเสริมสมดุลให้ public asset ที่ถือในพอร์ต กระจายความเสี่ยงป้องกันวันที่ตลาดติดลบ คราวด์ฟันดิงจะบาลานซ์ไม่ให้ผลตอบแทนผันผวนมากนัก

แต่ก็ไม่ใช่ว่าสินทรัพย์นี้จะไม่มีความเสี่ยงในตัวเองเลย เนื่องจากเป็นการระดมทุนในรูปแบบกู้ยืม คราวด์ฟันดิงจึงมีความเสี่ยงอยู่ที่ตัวบริษัท ความเสี่ยงจะระบุตามเกรดโดยวิเคราะห์จากประวัติการชำระหนี้และข้อมูลเครดิตบูโรจากศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เฉพาะการประเมินของ PeerPower) และสรุปเป็นข้อมูลในหนังสือชี้ชวนให้นักลงทุนพิจารณาว่าอาจเกิดอะไรขึ้นได้บ้างหากตัดสินใจลงทุน

‍

3 วิธีกระจายความเสี่ยงด้วยคราวด์ฟันดิง (แบบทำได้จริง) 

พอคราวด์ฟันดิงมีความผันผวนต่ำ นักลงทุนบางส่วนจึงใช้กระจายความเสี่ยงและบริหารพอร์ตให้สมดุล แต่ไม่ใช่ว่าลงทุนคราวด์ฟันดิงแค่หนึ่งตัวจะสามารถป้องกันความผันผวนได้ คราวด์ฟันดิงเองก็มีหลายแบบหลายลักษณะที่นักลงทุนต้องมาบริหารเช่นกัน ซึ่งนี่คือ 3 เทคนิคที่สามารถเอาไปปรับใช้กับพอร์ตตัวเองได้ 

1. กระจายลงทุนในหลายอุตสาหกรรม

ข้อนี้เป็นการสร้างโอกาสให้ตัวเองและลดความเสี่ยงเฉพาะด้านที่อาจเกิดขึ้นได้ในอุตสาหกรรม แทนที่จะเทลงในอุตสาหกรรมหรือเทรนด์ใดเทรนด์หนึ่งที่คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานดี ก็เลือกลงในหลาย ๆ อุตสาหกรรมเพื่อป้องกันผิดพลาดได้ 

จุดนี้คราวด์ฟันดิงค่อนข้างได้เปรียบเพราะบริษัทที่ต้องการระดมทุนมักมาจากอุตสาหกรรมหลากหลาย เช่น ผู้ให้บริการหรือคำปรึกษาเฉพาะด้าน (professional service) ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ผู้ผลิต (manufacture) บางบริษัทเป็นสตาร์ทอัพศักยภาพสูงที่พัฒนานวัตกรรมเพื่อการศึกษา (Education) การให้บริการทางการแพทย์ (Healthcare) การขนส่ง (Transportation) การตลาด (Marketing) ก็มีมาระดมทุนเช่นกัน

‍

2. กระจายการลงทุนตามเกรดของหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง

แพลตฟอร์มคราวด์ฟันดิงจะมีระบบการประเมินความเสี่ยงของตัวเอง สำหรับ เพียร์ พาวเวอร์ การประเมินความเสี่ยงจะดูจากข้อมูลเครดิตบูโร ประวัติการชำระหนี้ และการไปตรวจสอบสถานประกอบการเพื่อดูความน่าเชื่อถือ 

การลงทุนในหุ้นกู้ที่มีเกรดแตกต่างกันช่วยให้นักลงทุนไม่พลาดโอกาสทำกำไร และสามารถสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดหวังได้ไปพร้อม ๆ กัน

‍

3. กระจายการลงทุนในหลายบริษัท

เหตุผลเหมือนข้างบน คือนอกจากจะมาจากหลายอุตสาหกรรมแล้ว ก็มาจากหลายบริษัทเช่นกัน ซึ่งบางบริษัทก็เป็นสตาร์อัพที่มีโมเดลธุรกิจโดดเด่น หรือบางเจ้าอาจเป็นผู้ประกอบการ SME ที่มีฐานลูกค้าแน่นหนา

แพลตฟอร์มหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงช่วยให้นักลงทุนสามารถลงทุนในหุ้นกู้จากหลากหลายบริษัท สิ่งนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้และ แต่ยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้เข้าถึงบริษัทที่หลากหลาย ซึ่งอาจอยู่ในช่วงการเติบโตที่แตกต่างกันละมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีด้วย

‍

สิ่งนี้คือวิธีเบื้องต้นในการกระจายความเสี่ยงที่นักลงทุนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง อย่าลืมว่าท้ายที่สุดแล้วของที่ไม่มีความเสี่ยงเลยก็มีความเสี่ยงที่จะไม่ให้ผลตอบแทนอย่างที่หวัง ดังนั้นนักลงทุนอาจพิจารณาบริหารความเสี่ยงโดยลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงสูงบ้าง ในสัดส่วนที่น้อยแค่พอรับไหว้เพื่อป้องกันไม่ให้การลงทุนที่ทำมาเสียเปล่า 

สนใจลงทุนคราวด์ฟันดิง สมัครเป็นนักลงทุนใน PeerPower Community ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย กดที่นี่ เริ่มต้นลงทุนที่ 20,000 บาทเท่านั้น

หรืออยากรู้จักคราวด์ฟันดิงมากขึ้น? กดอ่าน Investment 101: รู้จักคราวด์ฟันดิงเบื้องต้น ได้ข้างล่างนี่ 👇

‍

‍

คำเตือน : การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงผ่านเพียร์ พาวเวอร์ เป็นการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจเพียงพอทั้งด้านความเสี่ยง และความสามารถในการตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง ความเสี่ยงในที่นี้หมายถึงความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของหลักทรัพย์และความเสี่ยงในการสูญเสียเงินจากการลงทุน การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงเป็นการลงทุนที่เหมาะสมกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุน นักลงทุนจะสามารถเริ่มลงทุนได้ต่อก็ต่อเมื่อนักลงทุนทำการลงทะเบียนและผ่านแบบประเมินความรู้ความเข้าใจในการลงทุนแล้ว

‍