ดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest) เทคนิคลงทุนที่สายออมห้ามพลาด
เทคนิคการลงทุนมีหลายแบบ ทั้งการกระจายความเสี่ยงจัดพอร์ต Diversification ไปยังสินทรัพย์หลากหลายประเภท หรือลงทุนเชิงรุก - เชิงรับ เก็งราคาซื้อมาขายไป ฯลฯ
แต่อีกเทคนิคหนึ่งที่ PeerPower จะคุยในบล็อกนี้เป็นเทคนิคที่ธรรมดา ไม่ซับซ้อน เป็นการเพิ่มพูนผลกำไรที่ง่ายและมั่นคงที่สุดในโลกการลงทุนแถมให้ผลตอบแทนดีเกิดคาด ซึ่งคือ “ดอกเบี้ยทบต้น”
“ดอกเบี้ยทบต้น” คืออะไร ?
ดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest) คือ การเอาดอกเบี้ยหรือกำไรที่ได้จากการลงทุน มาทบกับเงินต้นแล้วลงทุนต่อ ทุนเดิมที่มีก็จะเพิ่มพร้อม ๆ กับดอกเบี้ย/กำไร ยิ่งผ่านไปนานเงินในบัญชีก็จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
อ่านแล้วอาจจะงง ขออธิบายผ่านนักลงทุน 2 คน
ในปี 2022 นักลงทุน ก และ ข มีเงินทุน 100,000 บาท เท่ากัน เอาไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทน 10% เหมือนกัน พอผ่านไปหนึ่งปี 2023 ทั้งสองคนมีเงิน 110,000 นอนอยู่ในบัญชีเหมือนกันเป๊ะ
ทีนี้พอเข้าปี 2023 นาย ก ไม่ถอนเงินออกมาใช้ลงทุนเลย เอายอด 110,000 ในบัญชีไปลงทุนต่อ แต่นาย ข ถอนเอาดอกเบี้ยไปใช้ก่อน พอล่วงเข้าปี 2024 นาย ก. จะได้ดอกเบี้ย 11,000 บาท ในขณะที่นาย ข ได้ดอกเบี้ย 10,000 บาทเท่าเดิม
กำไรของนาย ก และ ข อาจดูไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ แต่ถ้าเรามองในระยะยาวผลต่างทางกำไรของทั้งคู่จะชัดมาก สมมุติผ่านไป 10 ปี นาย ก จะมีเงินทั้งหมด 259,374 บาท ส่วนนาย ข จะมี 200,000 บาทเท่านั้น
อ่านมาถึงตรงนี้น่าจะเห็นภาพ คีย์หลักของเทคนิคนี้ คือ ความอดทนและระยะเวลาในการลงทุน ยิ่งลงทุนนานกำไรก็ยิ่งเพิ่มทบเป็นทุนเพื่อสร้างกำไรเพิ่มขึ้นได้อีกแบบเท่าทวีคูณ อย่างกรณีนาย ก ที่ได้ดอกเบี้ยทบเพิ่มอีกจาก 10,000 เป็น 11,000 เป็น 12,100 … ผ่านไป 10 ปี ดอกเบี้ยเพิ่มเป็น 23,580 ยิ่งถ้าทิ้งไว้นานกว่านั้นก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ
ออมไม่ทัน แต่อยากใช้ “ดอกเบี้ยทบต้น” ทำยังไงได้บ้าง ?
สมมุติวันนึง นาย ข อยากมีเงินได้ดอกเบี้ยเยอะ ๆ บ้าง ต้องทำยังไง สิ่งที่ นาย ข ทำได้คือการเร่งเพิ่มทุน เพราะผลตอบแทนคำนวณจากเปอร์เซ็นต์ของทุน ถ้ามีทุนมากก็จะได้ดอกเบี้ยมากขึ้นตาม
ข้อดีของดอกเบี้ยทบต้น
- ให้ผลตอบแทนเสถียร
- ถือเป็น Passive Income อย่างหนึ่ง
- มีประโยชน์กว่าการเก็บเงินไว้โดยไม่นำไปลงทุน
- เป็นการโอกาสในการเพิ่มผลตอบแทน
ข้อเสียของดอกเบี้ยทบต้น
- ต้องใช้เวลานานถึงจะเห็นผลชัดเจน
- ต้องมีเงินทุนในปริมาณนึง
- ต้องใช้วินัยสูง
- สภาพคล่องต่ำ เพราะไม่สามารถนำเงินต้นและผลตอบแทนออกมาใช้ได้
เทคนิคดอกเบี้ยทบต้นสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับการลงทุนหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการฝากเงินเพื่อเอาดอกเบี้ย ประกันประเภทสะสมทรัพย์ ฯลฯ หรือต่อให้สินทรัพย์นั้น ๆ ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยทบต้นแก่นักลงทุน แต่การที่นักลงทุนนำเงินต้นหรือผลตอบแทนนั้นไปลงทุนเองก็ถือเป็นการลงทุนทบต้นได้ด้วยตัวเองเช่นกัน แต่อาจต้องเลือกสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ เช่น หุ้นกู้ หรือ หุ้นกู้คราวด์ฟันดิง
แต่สุดท้ายแล้วจะเป็นอะไร ก็อาจต้องเลือกที่เหมาะกับเงื่อนไขทางการเงินของตนเองให้มากที่สุดเช่นกัน
คำเตือน : การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงผ่านเพียร์ พาวเวอร์ เป็นการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจเพียงพอทั้งด้านความเสี่ยง และความสามารถในการตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง ความเสี่ยงในที่นี้หมายถึงความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของหลักทรัพย์และความเสี่ยงในการสูญเสียเงินจากการลงทุน การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงเป็นการลงทุนที่เหมาะสมกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุน นักลงทุนจะสามารถเริ่มลงทุนได้ต่อก็ต่อเมื่อนักลงทุนได้ลงทะเบียนและผ่านการทำแบบประเมินความรู้ความเข้าใจในการลงทุนแล้ว