ลงทุนในหุ้นคราวด์ฟันดิง โอกาสทำกำไรนอกตลาดหุ้น

การลงทุนในหุ้นไม่ได้มีแค่ในตลาดหลักทรัพย์ ยังมีหุ้นในธุรกิจอีกหลากหลายที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดแม้จะเป็นบริษัทขนาดใหญ่หรือบริษัทใหม่อนาคตไกล วันนี้เพียร์ พาวเวอร์ขอพาไปรู้จักการลงทุนในหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์กันให้มากขึ้นผ่านแพลตฟอร์มลงทุนในหุ้นแบบคราวด์ฟันดิงของเรา

ทำไมหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์จึงน่าสนใจ

Private Capital Market หรือตลาดทุนที่เสนอขายในวงจำกัด (ตรงข้ามกับตลาดหุ้นที่ใคร ๆ ก็เข้าไปลงทุนได้) กำลังมาแรงต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการ (Assets Under Management หรือ AUM) โตขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า คิดเป็นมูลค่ากว่า 9 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2021 (ตัวเลขจากรายงานของ McKinsey)โดยปกติแล้วนักลงทุนที่จะมีโอกาสเข้าไปถือหุ้นในบริษัทที่ไม่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เหล่านี้มักมีเพียงนักลงทุนสถาบัน หรือนักธุรกิจระดับเศรษฐี แต่ด้วยบริการคราวด์ฟันดิงทำให้นักลงทุนทั่วไปสามารถเข้าไปร่วมถือหุ้นในธุรกิจเหล่านี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพหรือยูนิคอร์นที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว หรือบริษัทเอกชนที่เป็นผู้นำในวงการ พูดง่าย ๆ ก็คือ หุ้นคราวด์ฟันดิงเปิดโอกาสให้คุณได้ลงทุนในธุรกิจหลากหลายที่ไม่ได้เปิดขายทั่วไปในตลาดหลักทรัพย์นั่นเอง

ข้อดีของการลงทุนในหุ้นคราวด์ฟันดิง

1. ผลประกอบการดีกว่า

หุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์จัดเป็นกลุ่มสินทรัพย์ที่ทำผลประกอบการได้ดีกว่าสินทรัพย์กลุ่มอื่น ๆ โดยมีอัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) เมื่อปี 2021 ถึง 27% บริการของเพียร์ พาวเวอร์ช่วยให้นักลงทุนทั่วไปเข้าถึงสินทรัพย์กลุ่มนี้ได้ โดยเราได้คัดเลือกธุรกิจที่น่าลงทุนด้วยมาเปิดเป็นหุ้นคราวด์ฟันดิงให้คุณได้ลองลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้โดยสามารถเริ่มต้นลงทุนจากจำนวนน้อยก่อนได้

2. ความผันผวนต่ำ

ตลาดเอกชนและหุ้นคราวด์ฟันดิงมักมีความผันผวนต่ำกว่าตลาดหลักทรัพย์ทั่วไปที่มีผู้ซื้อขายจำนวนมาก นอกจากนี้ยังไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากการขึ้นลงของตลาดหุ้น การลงทุนในหุ้นคราวด์ฟันดิงจึงเป็นวิธีที่ดีในการกระจายพอร์ตลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง

3. โอกาสทำกำไรมากกว่า

กฎหมายระบุให้บริษัทมหาชนต้องเปิดเผยข้อมูลทางธุรกิจและการเงินแก่สาธารณะ ดังนั้นจึงมีโอกาสน้อยที่นักลงทุนจะสามารถซื้อหุ้นได้ในราคาถูกกว่ามูลค่าที่แท้จริง (undervalue) ในทางกลับกัน ข้อมูลทางธุรกิจของบริษัทเอกชนมีผู้เข้าถึงและติดตามน้อยกว่า จึงเป็นโอกาสที่นักลงทุนสามารถเล็งทำกำไรจากการซื้อหุ้นต่ำกว่ามูลค่าจริงและขายไปในราคาที่แพงกว่าได้

ข้อเสีย (?) ของการลงทุนในหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์

1. หาข้อมูลธุรกิจยากกว่า

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ไม่ถูกบังคับให้ต้องเปิดเผยข้อมูลและตัวเลขการดำเนินงานต่อสาธารณะ การหาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจเหล่านี้โดยทั่วไปจึงทำได้ยากกว่า ด้วยเหตุนี้ เพียร์ พาวเวอร์จึงให้ความสำคัญกับการจัดสัมมนาออนไลน์ให้นักลงทุนได้พบกับตัวแทนธุรกิจเพื่อเปิดโอกาสให้คุณซักถามได้โดยตรง และสามารถส่งคำถามที่ยังข้องใจมาให้ธุรกิจตอบได้ตลอดเวลา เพราะเราเชื่อว่าการลงทุนอย่างชาญฉลาดคือการศึกษาหาข้อมูลอย่างรอบด้าน

2. ความเสี่ยงสูงกว่า

การลงทุนในหุ้นคราวด์ฟันดิงโดยทั่วไปอาจมีความเสี่ยงสูงกว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ในกรณีเลวร้ายที่สุดธุรกิจอาจล้มเหลวจนต้องสูญเงินลงทุนไปทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การลงทุนทุกชนิดย่อมมีความเสี่ยง และความเสี่ยงที่สูงกว่าก็เป็นโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนสูงกว่าเช่นกัน การลดความเสี่ยงจึงไม่ใช่การไม่ลงทุน แต่เป็นการลงทุนโดยศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียดรอบคอบก่อนตัดสินใจ

3. ค่าธรรมเนียมสูงกว่า

โดยปกติแล้วการลงทุนในหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์มักมีค่าธรรมเนียมสูงกว่าการซื้อขายหุ้นในตลาด โดยมักมีอัตราค่าธรรมเนียมอยู่ที่ประมาณ 1.5-2.0% ของจำนวนเงินที่ตกลงว่าจะลงทุน (committed capital) อย่างไรก็ตาม ที่เพียร์ พาวเวอร์เราลดค่าธรรมเนียมที่นักลงทุนต้องจ่ายลงเหลือเพียง 1.25% ของจำนวนเงินที่จองซื้อและค่าธรรมเนียมจากกำไรส่วนต่างราคา (capital gain) เท่านั้น นอกจากนี้เรายังทำระบบค่าธรรมเนียมให้โปร่งใส และเก็บค่าธรรมเนียมตามผลกำไรที่นักลงทุนทำได้ (ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมจากส่วนต่างราคาหากนักลงทุนไม่ได้ผลกำไรจากการลงทุน)

4. ไม่มีสภาพคล่อง

ปกติแล้วหุ้นที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มักมีปัญหาสภาพคล่องเมื่อเทียบกับหุ้นในตลาด บางครั้งนักลงทุนอาจต้องถือหุ้นไว้หลายปีกว่าบริษัทจะ IPO เข้าสู่ตลาดหุ้น หรือมีโอกาสอื่น ๆ ในการขายหุ้น อันที่จริงแล้วเรามองการลงทุนหุ้นคราวด์ฟันดิงเหมือนการลงทุนระยะยาวในหุ้นพื้นฐานดีที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าจริง ดังนั้นจึงไม่ใช่การลงทุนเพื่อหวังกำไรจากการซื้อมาขายไปในระยะสั้น  อย่างไรก็ตามเพื่อคลายความกังวลใจของนักลงทุน เพียร์ พาวเวอร์จึงกำลังดำเนินการเพื่อเปิดให้นักลงทุนสามารถขายหุ้นคราวด์ฟันดิงที่มาจากการระดมทุนบนแพลตฟอร์มของเรา เตรียมพบฟีเจอร์ใหม่ได้ในเร็ว ๆ นี้

5. ไม่ได้รับยกเว้นภาษีเหมือนการซื้อขายหุ้นในตลาด

การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นั้นนักลงทุนทั่วไปจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้จากกำไรการซื้อขาย แต่ล่าสุดรัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพโดยจะยกเว้นภาษีลักษณะเดียวกันให้กับการซื้อขายหุ้นในบริษัทสตาร์ทอัพโดยไม่จำเป็นต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หุ้นคราวด์ฟันดิงก็มีโอกาสจะได้รับการยกเว้นภาษีเช่นกันหากเป็นหุ้นของธุรกิจที่เข้าเกณฑ์ตามข้อกำหนดนี้

ธุรกิจไหนน่าลงทุนผ่านหุ้นคราวด์ฟันดิง

1. ธุรกิจที่ต้องการขยายกิจการ

ลงทุนกับบริษัทเอกชนที่มีโอกาสเติบโตสูง

2. ธุรกิจยูนิคอร์น

ลงทุนในธุรกิจเอกชนที่เติบโตอย่างรวดเร็วจนมีมูลค่าเกิน 1 พันล้านเหรียญ บริษัทยักษ์ใหญ่เนื้อหอมที่เราเห็นทุกวันนี้ต่างเคยเป็นยูนิคอร์นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Airbnb หรือ Google ส่วนยูนิคอร์นในประเทศไทยก็มีเช่น Flash Group และ Ascend Money

3. ธุรกิจที่เพิ่งก่อตั้ง

ลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพและธุรกิจที่ยังอยู่ในช่วงแรกเริ่มแต่มีศักยภาพเติบโตสูง ธุรกิจเหล่านี้มักมีอัตราผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (risk-reward ratio) สูงกว่าการลงทุนในหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ทั่วไป เนื่องจากบริษัทยังไม่มีประวัติการดำเนินงานให้เห็น

4. ธุรกิจที่ (ตอนนี้) กำลังสะดุด

ลงทุนในธุรกิจที่ขณะนี้อาจกำลังประสบปัญหา แต่ยังเห็นศักยภาพที่จะกลับมาดำเนินธุรกิจได้ดีอีกครั้งด้วยเงินลงทุนเพิ่มเติม การลงทุนในธุรกิจเหล่านี้เป็นโอกาสให้นักลงทุนเข้าถือหุ้นได้ในขณะที่บริษัทมีมูลค่าค่อนข้างต่ำ โดยคาดหวังมูลค่าที่เพิ่มขึ้นจากผลประกอบการในอนาคต

สรุป

หุ้นคราวด์ฟันดิงเป็นโอกาสให้นักลงทุนได้เข้าถือหุ้นในบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งอาจเป็นได้ตั้งแต่บริษัทสตาร์ทอัพอนาคตไกล ไปจนถึงบริษัทที่ก่อตั้งมานานและมีพื้นฐานที่ดี การลงทุนลักษณะนี้โดยปกติมักเปิดให้เฉพาะนักลงทุนระดับสถาบัน หรือนักลงทุนที่มีเงินทุนสูงมากเท่านั้น แต่บริการของเพียร์ พาวเวอร์ทำให้นักลงทุนทุกคนสามารถหาโอกาสทำกำไรจากสินทรัพย์ลักษณะนี้ได้โดยเริ่มต้นลงทุนเพียงไม่ถึง 50,000 บาทดูโครงการลงทุนหุ้นคราวด์ฟันดิงที่กำลังเปิดระดมทุนกับเพียร์ พาวเวอร์ได้ที่นี่นักลงทุนที่สนใจสามารถเปิดบัญชีนักลงทุนกับแพลตฟอร์มเพียร์ พาวเวอร์ได้แล้ววันนี้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการเปิดบัญชี

‍

‍