Sprint คือกลยุทธ์ใหม่ในการช่วยธุรกิจช่วงโควิดแบบเร่งด่วนใน 5 วัน!

สถานการณ์โควิดทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวขนานใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในฝั่งอุปสงค์ และการปรับรูปแบบการดำเนินงานในฝั่งของอุปทาน ยังมีตัวแปรสำคัญอย่างนโยบายและมาตรการของภาครัฐที่มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา ปัจจัยเหล่านี้ล้วนบังคับให้ธุรกิจต้องตัดสินใจและออกกลยุทธ์รับมือที่ทันเวลาและมีประสิทธิภาพ แต่ในทางปฏิบัติจริง การออกแนวทางการแก้ปัญหาหรือกลยุทธ์ใหม่ ๆ ล้วนใช้เวลานานและใช้งบประมาณสูงโดยเฉพาะกับบริษัทใหญ่ ๆ

วันนี้เพียร์ พาวเวอร์จึงอยากที่จะนำเสนอ Sprint  วิธีการทำงานที่จะช่วยคิด Solutions และทดสอบความเป็นไปได้ใน 5 วันที่สร้างมาเพื่อจัดการปัญหาใหญ่ ๆ เรื่องที่มีความเสี่ยงสูงและการคิดกลยุทธ์ที่ต้องรีบใช้ กระบวนการนี้เป็นวิธีที่ Google Venture ใช้ช่วยเหลือสตาร์ทอัพและบริษัทใหญ่ ๆ มาแล้วทั่วโลกตั้งแต่หาวิธีการเปิดตลาดขายเมล็ดกาแฟออนไลน์ไปจนถึงการคิดค้นปั๊มแบบใหม่สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมที่ซับซ้อนและมูลค่าสูง เพียร์ พาวเวอร์เชื่อว่า Sprint เองก็จะช่วยผู้ประกอบการไทยสร้างกลยุทธ์ภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทายอย่างตอนนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับที่เคยได้ผลมาแล้วกับกิจการทั่วโลก

ทำไมต้อง Sprint : ทดสอบแผนงานได้เร็วและประหยัดกว่าเพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขันอย่างรวดเร็วให้บริษัท

คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าแผนงานที่คิดจะเวิร์คจริง ๆ ? ในการทำธุรกิจมีคำถามสำคัญหลายข้อที่ต้องตอบตลอดเวลา บางคำถามที่สำคัญถึงกับสามารถชี้ได้ว่า โครงการที่ธุรกิจวางแผนจะทำควรเดินหน้าต่อ หรือ ควรหยุด ทว่าต่อให้เป็นนักธุรกิจที่เก่งที่สุดก็ไม่มีทางรู้ได้ว่าโครงการที่ทำจะสำเร็จหรือล้มเหลว การทดลองตลาดเป็นสิ่งจำเป็น แต่มันก็กินเวลาและงบประมาณอย่างยิ่ง Sprint คือคำตอบของโจทย์ที่แสนท้าทายนี้ เราสามารถทดสอบไอเดียใหม่ ๆ การตัดสินใจที่เสี่ยง ๆ ได้มากขึ้น ถ้ามันทำได้เร็วพอและจำกัดความเสียหายได้ ซึ่งนั่นคือหัวใจของ Sprint วิธีการคิดและทดสอบแผนงานภายใน 5 วันที่จะทำให้เราได้เห็นอย่างเร็วว่าผลิตภัณฑ์ที่เสร็จสมบูรณ์กับปฏิกิริยาของลูกค้าจะเป็นอย่างไร ถ้าแผนงานนั้นไปได้ดี ก็ดีมาก ถ้าแผนงานนั้นล้มไม่เป็นท่า ก็คุ้มค่าที่จะได้รู้ใน 5 วันเพื่อแก้ข้อพลาดร้ายแรงนั่นก่อนเราจะลงมือจริงและล้มเหลวจริง ๆ ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้แล้วเริ่มสนใจลองมาดูรายละเอียดกันดีกว่าว่าใน 5 วันเราจะทำอะไรกันบ้าง

สรุปง่ายใน 10 พยางค์ Map-Sketch-Decide-Prototype-and-TestSprint จะขอจองเวลาทีมที่มาทำ 5 วันเต็ม เช้าจรดเย็นโดยเวลาที่แนะนำคือ 10.00-17.00 เท่ากับใช้เวลา 1 อาทิตย์ในการเริ่มร่างไอเดียไปจนถึงเทสตลาด โดยเริ่มจาก

Map ปัญหาและผลลัพธ์ที่อยากได้ในวันจันทร์ - เริ่มช่วยกันกำหนดผลลัพธ์ที่อยากได้ในท้ายสุดและตกลงเป้าหมายในระยะยาว จากนั้นก็เริ่มเขียนปัญหาหรือความท้าทายที่ต้องเผชิญ ช่วยกัน Map เป็นแผนที่ปัญหา แล้วเชิญผู้เชี่ยวชาญ (เช่น ทีมงานที่ปฏิบัติหน้างานหรือหัวหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง) มาซักถาม Insight เมื่อเข้าใจสถานการณ์ในภาพรวมก็จะสามารถตัดสินใจเลือกจุดที่จะเข้าไปแก้ปัญหาในแผนที่ เช่น พัฒนากระบวนการทำงานบางอย่างหรือแก้ไขปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้น เลือกจุดแก้ไขปัญหาที่ตอบผลลัพธ์ที่อยากได้ในท้ายสุดอย่างระมัดระวัง เราจะใช้ปัญหาและผลลัพธ์ที่คาดหวังสองสิ่งนี้ในการนำทางทีมตลอดสี่วันที่เหลือ

ตัวอย่าง Map ที่เขียนผลลัพธ์ที่คาดหวังพร้อมกับเลือกปัญหาที่จะแก้(ตามที่วงไว้)

Sketch ทางแก้ด้วยกันในวันอังคาร - หลังจากระบุปัญหาในวันจันทร์ก็ถึงเวลาช่วยกันหาทางแก้ ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากศูนย์เราสามารถใช้หลัก Remix and Improve คือนำผลิตภัณฑ์หรือแผนที่มีอยู่แล้วมาผสมหรือปรับปรุงให้ดีขึ้นในตอนเช้า แล้วเริ่ม Sketch แนวทางการแก้ปัญหาแบบละเอียดในตอนบ่าย ถ้าเกือบจะเที่ยงแล้วคุณยังคิดไอเดียไม่ออกอาจจะใช้วิธีอย่าง Lighting Demo ให้พนักงานออกมาเล่าวิธีแก้ปัญหาที่ชื่นชอบจากครั้งผ่าน ๆ มาในสามนาที หรือลองหาคำตอบที่คล้ายกันจากอุตสาหกรรมอื่น มีครั้งหนึ่งที่ทีมธุรกิจเจ้าหนึ่งอยากขายเมล็ดกาแฟออนไลน์แต่ไม่รู้จะให้ลูกค้าแยกความต่างของเมล็ดกาแฟออกได้อย่างไรถ้าไม่ได้ชิม พวกเขาหาวิธีบรรยายกลิ่นรสของผลิตภัณฑ์ ลองเสิร์ชเว็บตั้งแต่เสื้อผ้าไปจนถึงไวน์ จนได้ไอเดียในการคิดคำจากกระดาษห่อช็อกโกแลตที่ใช้ศัพท์บรรยายรสชาติง่าย ๆ เช่น เข้มข้น, ละมุน เป็นต้น

ตัวอย่างของ Bottle Blue Coffee ที่ทำให้ลูกค้าออนไลน์หาเมล็ดกาแฟที่เหมาะสมกับตนผ่านคำบรรยายรสชาติและประเภทเครื่องชงที่บ้านลูกค้า

Decide ทางออกที่ดีที่สุดในวันพุธ - หลังจากได้แนวทางแก้ปัญหากองใหญ่ ก็ถึงเวลาที่ต้องเลือกอีกครั้ง เราจะมีการนำเสนอไอเดียของแต่ละคนสั้น ๆ โดยทีมงานทุกคนจะสามารถโหวตไอเดียหรือแผนงานที่ชอบที่สุด ถ้าสุดท้ายยังมีอันดับที่เท่ากันก็ไม่ต้องกังวล เราแค่นำแผนงานที่เราเลือกด้วยกันมาสร้างเป็น Storyboard ที่ร่างขั้นตอนในการสร้างต้นแบบ (Prototype) อย่างชัดเจน

สิ่งสำคัญที่ควรคิดตอนร่างวิธีทำ Prototype คือการบาลานซ์ระหว่างความสมจริงและเวลาที่ใช้ ต้นแบบของเราควรจะสมจริงพอที่จะให้ลูกค้าเห็นภาพตอนสร้างจริงได้และก็ไม่ควรประณีตเกินไปจนเปลืองเวลาและงบประมาณ Sprint ตั้งใจบีบให้มีเวลาร่างและสร้างต้นแบบแค่สองวันเพื่อช่วยให้คุณมีเวลามากพอในการสร้างผลิตภัณฑ์หรือทำแผนทดลองที่สมจริง แต่ไม่ให้พอต่อการใส่รายละเอียดที่เกินจำเป็นสร้าง Prototype ที่ใช้งานได้ในวันพฤหัส - การสร้างต้นแบบที่ทดสอบได้จริงคือหัวใจของ Sprint ท่านที่มีแผนงานหรือผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนอาจจะรู้สึกว่ามันเป็นไปได้ยากยิ่งที่จะสร้างต้นแบบที่ทดสอบได้จริงในเวลาสั้น ๆ เคล็ดลับสำคัญที่จะทำให้คุณทำสำเร็จคือ Fake It หรือทำแบบหลอก ๆ ให้ดูสมจริงที่สุด เช่น เขียนหน้าตาเว็บไซต์บนโปรแกรมโดยที่ยังไม่ต้องเขียนโค้ดให้กดได้จริง โดยปกติวิธีที่ง่ายและเร็วคือร่างแบบแล้วปริ้นส์ออกมาให้ลูกค้าลองกด แต่ด้วยสถานการณ์โควิดการทดสอบโปรดักส์แบบซึ่งหน้าอาจจะทำได้ยาก ทางเพียร์ พาวเวอร์จึงได้รีเสิร์จ Tools ช่วยสร้าง Web หรือ App ที่คลิกได้บางตัวเผื่อท่านผู้อ่านที่มีแผนเพิ่ม Digital Platform ให้ธุรกิจได้ลองสร้าง Prototype และทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างผ่านทางออนไลน์ได้เลย

• ตัวแรกคือ Proto.io เว็บสร้างโปรโตไทป์ที่ท่านสามารถให้ฝ่ายกราฟฟิกร่างหน้าเว็บหรือแอพที่เหมือนจริงที่สุดพร้อมเริ่มทดสอบเหมือนใช้งานของจริงได้เลยโดยไม่ต้องเขียนโค้ด (ซึ่งอาจจะกินเวลา 2-4 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย)

• หรือหากในทีมที่ทำ Sprint ไม่มีดีไซเนอร์ ก็สามารถให้คนในทีมร่างภาพบนกระดาษแล้วถ่ายรูปมาทดลองกันเองในเวลาสั้น ๆ ได้เลยด้วย Prott วิธีนี้อาจจะไม่ละเอียดเท่าแบบบนแต่ได้ต้นแบบเร็วทันใจพร้อมดิสคัสและทดสอบต่อทันที

Test กับกลุ่มเป้าหมายในวันศุกร์ - หลังจากคิดแผนและทำต้นแบบเรียบร้อยก็ถึงเวลาสำคัญที่จะพิสูจน์ว่าสิ่งที่เราคิดจะไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้หรือไม่ ผ่านการเทสตลาดจริงโดยการทดลองและสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง วันศุกร์เป็นวันที่คุณจะรู้ชัดว่าควรไปต่อหรือหยุดก่อนที่จะเกิดผลลัพธ์ที่เลวร้ายหากบริษัทลงทุนไปจริง

ภาพตัวอย่างการสังเกตการณ์ของทีมขณะตัวแทนสัมภาษณ์ลูกค้า

วิธีเทสในวันศุกร์ก็คือเชิญกลุ่มตัวอย่างที่เราสนใจมาทีละคน ให้สมาชิกคนหนึ่งเป็นคนแนะนำการทดลองใช้และสัมภาษณ์ คนที่เหลือให้อยู่ในห้องสังเกตการเผชพื่อจดและเฝ้าดูปฏิกิริยาของกลุ่มตัวอย่างอย่างใกล้ชิด จากการวิเคราะห์การศึกษาผลิตภัณฑ์พบว่าการสัมภาษณ์หู้ใช้เพียง 5 รายก็จะพบปัญหาเกือบ 85% ที่มีแล้วและเพียงพอที่จะทำให้ทีมทราบว่าแผนหรือผลิตภัณฑ์ที่คิดมาตลอดสี่วันควรจะได้ไปต่อหรือพอแค่นี้

การระดมสมองแบบ New Normal

วิธีหลัก ๆ ที่ใช้ใน Sprint คือการดิสคัส แปะกระดาษไอเดียและช่วยกันโหวต คำถามสำคัญคือในยุคโควิดที่ทีมต้อง Social Distancing แบบนี้จะดำเนินงานแบบ Sprint ที่ต้องเจอหน้า ช่วยกันจดบันทึกและแปะกระดาษโพสอิทให้เต็มห้องไปได้อย่างไร ทางเพียร์ พาวเวอร์ครุ่นคิดถึงประเด็นสำคัญนี้ หลังจากที่เรารีเสิร์จและทดลองใช้หลาย Tools เพื่อตามหาอุปกรณ์ที่ช่วยให้เราเบรนสตรอมได้มีประสิทธิภาพที่สุด และเราก็พบว่า Miro คือคำตอบของโจทย์นี้ Miro คือ Online Whiteboard ที่มีทั้งเว็บและแอพ ทีมสามารถเขียนและเห็นโพสต์อิทที่เพื่อนร่วมทีมแปะแบบเรียลไทม์ หลังจากทดลองใช้ดูเราพบว่ามันได้ประสบการณ์แทบไม่ต่างจากการทำ Sprint แบบเจอหน้าเลยทีเดียว

สถานการณ์โรคระบาดเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก ธุรกิจหลายอย่างต้องปรับตัว หาโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อให้อยู่รอด เป็นช่วงเวลาที่บริษัทต้องตัดสินใจให้เร็วและลดค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด เพียร์ พาวเวอร์นำเสนอ Sprint โดยหวังอย่างยิ่งว่ามันจะเป็นทางหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถคิดและทดลองโมเดลใหม่ได้อย่างรวดเร็วใน 5 วันเพื่อรีบแข่งขันในตลาดหรือปรับตัวเพื่อลดความเสียหาย ถ้าภารกิจของ Google Venture คือการค้นหาผู้ประกอบการที่ดีแล้วช่วยพวกเขาเปลี่ยนโลกให้ดีขึ้น พันธกิจของเพียร์ พาวเวอร์ก็คือการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้ผู้ประกอบการเพื่อไม่ให้มีสิ่งใดมายับยั้งศักยภาพของพวกเขา ปัจจุบัน เพียร์ พาวเวอร์ ให้บริการในรูปแบบของ "หุ้นกู้คราวด์ฟันดิง" อีกหนึ่งตัวเลือก ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของธุรกิจ หากท่านใดที่ต้องต้องการเงินทุน สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม หรือออกหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงกับเพียร์ พาวเวอร์ได้จากลิงก์ด้านล่างเลยครับ

‍

‍