New Year's Resolutions ทางการเงินในปี 2018

เมื่อย่างก้าวเข้าสู่ปีใหม่ หลายคนมักจะเขียน New Year's Resolutions ของตนเอง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะไม่พ้นเรื่องของสุขภาพ หน้าที่การงาน ความสัมพันธ์ และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือปณิธานด้านการเงินแน่นอนว่าการตั้งเป้าหมายนั้นอาจฟังดูง่าย แต่การลงมือปฏิบัตินั้นคือเรื่องที่สำคัญกว่าจากการวิจัยของ LendEDU ปีที่ผ่านมา 28% ของผู้สอบถาม 1,000 คนได้ตั้งเป้าหมายทางการเงิน และ 44% ของคนกลุ่มนี้สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เราหวังว่าคุณจะเป็น 1 ใน 44% นี้ก่อนที่คุณจะเริ่มตั้ง New Year's Resolutions ของปี 2018 ที่จะถึงนี้ ลองมองย้อนกลับไปว่าในปี 2017 สุขภาพการเงินของคุณเป็นอย่างไร ลองจดออกมาและดูว่ามีสิ่งใดที่ผิดพลาดและสามารถทำให้ดีขึ้นในปี 2018มาดูกันว่าเป้าหมายทางการเงินที่คุณควรมีในปีใหม่นี้มีอะไรบ้างค่ะ

1. ฝากเงินเป็นประจำอัตโนมัติทุกเดือน

ทุกครั้งที่คุณได้เงินเดือน คุณควรกำหนดให้ธนาคารโอนเงินจากบัญชีเงินเดือนของคุณไปยังบัญชีเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหว หากเป็นไปได้ บัญชีนี้ไม่ควรมีบัตร ATM หรือบัตรเดบิตผูกอยู่ด้วย เพราะจะทำให้ความยากลำบากในการเข้าถึงเงินก้อนนี้มีมากขึ้น ปัจจุบันมีประเภทบัญชีที่ให้ดอกเบี้ยพิเศษสำหรับคนที่ฝากประจำทุกเดือนเป็นระยะเวลาอย่างต่ำ 2 ปี เมื่อคุณทำเข่นนี้ คุณจะพบว่าคุณมีเงินเก็บมากขึ้น และเงินเก็บนี้สามารถนำไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากอีกด้วย

2. วางแผนการใช้บัตรเดบิตและเครดิตอย่างรอบคอบ

หากปีที่ผ่านมา คุณรู้สึกว่าคุณใช้บัตรเครดิตไปเยอะ และทุกต้นเดือน เงินเดือนหมดไปกับการจ่ายบิลบัตรเครดิตล่ะก็ คุณควรปรับเปลี่ยนการใช้เงินของคุณเสียใหม่ หลายครั้งที่คุณไม่ได้บันทึกการใช้จ่ายบัตรเครดิตในแต่ละครั้ง เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าคุณจะใช้จ่ายจนเกินตัว คุณควรใช้บัตรเครดิตในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น เช่น การผ่อนสินค้าใหญ่ๆ การใช้จ่ายทางออนไลน์ที่สามารถใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตเท่านั้น หรือการใช้จ่ายเพื่อสะสมคะแนน

3. จ่ายค่าบัตรเครดิตเต็มวงเงินทุกเดือน

การชำระบัตรเครดิตขั้นต่ำทำให้เกิดดอกเบี้ยสูงถึง 18% ต่อปี ซึ่งดอกเบี้ยถูกคำนวณเป็นรายวัน คุณควรวางแผนชำระหนี้บัตรเครดิตที่มีให้หมด โดยปัจจุบันมี สินเชื่อรีไฟแนนซ์ ที่ช่วยให้คุณรวบรวมหนี้ของบัตรทุกใบเป็นหนี้เพียงก้อนเดียว และอัตราดอกเบี้ยลดลง ทำให้คุณมีอิสระในการผ่อนชำระหนี้มากขึ้นอีกด้วย

4. อ่านหนังสือการเงินเดือนละ 1 เล่ม

การมีความรู้ทางการเงินส่วนบุคคล ช่วยให้คุณวางแผนและตัดสินใจทางการเงินได้ดียิ่งขึ้น คุณจะรู้ว่าสามารถประหยัดเงินจากค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้อย่างไร และถ้าหากคุณมีเป้าหมายทางการเงิน เช่น แต่งงาน เรียนต่อปริญญาโท หรือเก็บเงินเพื่อการเกษียณ ความรู้เกี่ยวกับการออมและลงทุนจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนและไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้นอ่านเพิ่มเติม: หนังสือการเงินส่วนบุคคลที่คุณควรอ่านในปี 2018

5. เขียนงบการเงินส่วนบุคคล (Personal Financial Statement)

เช่นเดียวกับธุรกิจ บุคคลเองก็ควรมีงบการเงินเพื่อติดตามสถานะทางการเงินในปัจจุบันSET.or.th ได้ให้นิยามงบการเงินส่วนบุคคลว่า "งบรายได้และค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลจะสะท้อนพฤติกรรมการใช้จ่ายของเราอย่างอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญมากในการปรับปรุงพฤติกรรมทางการเงินและการวางแผนการใช้จ่ายสำหรับอนาคต"งบการเงินส่วนบุคคลเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนทางการเงิน เพราะจะช่วยให้เราทราบสถานะทางการเงินที่แท้จริง ทำให้สามารถประเมินสถานการณ์การเงินในปัจจุบันและที่อาจจะเกิดขึ้นได้ รวมทั้งช่วยให้การตัดสินใจทางการเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้นงบการเงินส่วนบุคคล ประกอบไปด้วย งบดุลส่วนบุคคล (Personal Balance Sheet) และ งบรายได้และค่าใช่จ่ายส่วนบุคคล (Personal Income and Expense Statement) และงบประมาณเงินสด (Cash Budget)สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับงบการเงินส่วนบุคคลได้ ที่นี่

6. เพิ่มเครดิตสกอร์ของตนเอง

การสร้างเครดิตที่ดีย่อมเป็นสิ่งที่ดีกับตัวคุณเอง โดยเฉพาะใครที่มีแผนกู้เงิน ไม่ว่าจะเป็น กู้เงินซื้อบ้าน กู้สินเชื่อธุรกิจ หรือกู้เงินส่วนบุคคล คะแนนเครดิตที่ดีจะช่วยให้โอกาสในการอนุมัติสินเชื่อมีมากขึ้น นอกจากนี้ผู้ให้บริการการเงินบางราย เช่น PeerPower ยังคิดอัตราดอกเบี้ยของผู้กู้ตามคะแนนเครดิตอีกด้วย ซึ่งหมายความว่า ถ้าคุณมีพฤติกรรมทางการเงินที่ดี คุณก็มีโอกาสประหยัดดอกเบี้ยได้อีกด้วย เราเคยเขียนบทความเกี่ยวกับ เคล็ดลับการเพิ่มเครดิตสกอร์ โดยคุณสามารถทำตามได้ค่ะไม่ว่าเป้าหมายของคุณจะเป็นอะไร

‍สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการลงมือทำ คุณไม่ควรกดดันตนเองมากเกินไป และเปรียบเทียบสภาพการเงินของตนเองกับผู้อื่น เพราะความสำเร็จทางการเงินของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน เราหวังว่าปีหน้าเป้าหมายอย่างน้อย 1 อย่างในลิสต์ทั้งหมดของคุณจะสามารถเป็นจริงได้ สุดท้ายนี้ PeerPower ขอให้ปีใหม่ ปีที่ 2018 นี้เป็นปีที่ดีของทุกคนค่ะ

แล้วพบกันในบทความหน้า ในปีหน้าค่ะ

‍เพียร์ พาวเวอร์ คือผู้ให้บริการระบบคราวด์ฟันดิงที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งระบบคราวด์ฟันดิงคือตัวกลางในการระดมทุนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ด้วยวิธีการออกหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง ในขณะเดียวกันเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนที่สามารถเข้ามาลงทุนในธุรกิจที่เสนอขายหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงในแพลตฟอร์มได้ สำหรับท่านใดที่สนใจ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ ที่นี่

‍_______________________________________________________________________

‍คำเตือน : การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงผ่านเพียร์ พาวเวอร์ เป็นการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจเพียงพอทั้งด้านความเสี่ยง และความสามารถในการตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง ความเสี่ยงในที่นี้หมายถึงความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของหลักทรัพย์และความเสี่ยงในการสูญเสียเงินจากการลงทุน การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงเป็นการลงทุนที่เหมาะสมกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุน นักลงทุนจะสามารถเริ่มลงทุนได้ต่อก็ต่อเมื่อนักลงทุนทำการลงทะเบียนและผ่านแบบประเมินความรู้ความเข้าใจในการลงทุนแล้ว