กลยุทธ์การตั้งราคา (Pricing Strategy) แบบไหนใช้แล้วขายดี
ขายของทั้งทีผู้ประกอบการ SME มีวิธีการตั้งราคาแบบไหนกันบ้างคะ นอกจากต้นทุน + กำไรที่ต้องการแล้ว การตั้งราคายังมีความละเอียดอ่อนและส่งผลต่อยอดขายได้ด้วยค่ะ เพื่อให้การตั้งราคาของผู้ประกอบการ SME เป็นไปได้ด้วยดีและเหมาะสมกับประเภทสินค้า เพียร์ พาวเวอร์ จึงของนำกลยุทธ์การตั้งราคา 6 แบบ มาให้ลองศึกษาเพื่อนำไปตั้งราคาสินค้าแบบได้ผล โดยสิ่งแรกที่ผู้ประกอบการต้องทราบเพื่อการตั้งราคาคือต้นทุน+กำไรที่อยากได้ และสินค้าชนิดนี้ในตลาดเค้าขายกันที่เท่าไหร่ก่อนเลยค่ะ ถ้ารู้แล้วไปขั้นตอนต่อไปกันเลยนะคะ
Pricing Strategy แบบสูงกว่าตลาด
ส่วนใหญ่ใช้กับของที่มีคุณภาพแบบ Premium ผู้ประกอบการ SME ที่เหมาะจะตั้งราคาแบบนี้คือกลุ่มที่ผลิตสินค้าที่เน้นคุณภาพ เช่นเครื่องหนัง เครื่องประดับ กลยุทธ์การตั้งราคาให้แพงกว่าราคาตลาดจะทำให้คนคาดหวังว่าสินค้าต้องมีคุณภาพดี จึงเหมาะกับสินค้าที่ต้องการเน้นคุณภาพ และเริ่มตั้งแต่สินค้าเพิ่งเข้าสู่ตลาด โดยนอกจากราคาแล้ว องค์ประกอบอื่นๆ เช่นแพคเกจจิ้ง ดิสเพลย์หน้าร้าน บรรยากาศภายในร้านต้องมีความปราณีต และดูได้รับการดูแลเป็นพิเศษตามไปด้วยเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภค
Pricing Strategy แบบรุกตลาด
กลยุทธ์ตั้งราคาแบบนี้คือตั้งให้ถูกกว่าราคาของคู่แข่ง มักใช้กับสินค้าประเภทที่มีตัวเลือกในตลาดเยอะและเป็นของที่คล้ายๆ กัน เช่นสบู่ แชมพู ยาสระผม ทำให้แบรนด์หรือเจ้าของธุรกิจที่เข้าตลาดใหม่นั้นต้องยอมตั้งราคาให้ถูกกว่าราคาตลาดทั่วไป เพื่อดึงดูดให้ผู้บริโภคนั้นหันมาลองใช้ผลิตภัณฑ์มากขึ้น เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการตีตลาด แต่เมื่อผ่านไประยะหนึ่งราคาก็ต้องขยับขึ้น เพื่อให้แบรนด์อยู่ได้
Pricing Strategy แบบประหยัด
กลยุทธ์นี้ การตั้งราคาแบบนี้มักใช้กับกลุ่มสินค้าประเภท วัตถุดิบอาหาร หรือ สินค้าที่วางขายในร้านขายของชำทั่วไปอย่าง เช่น เครื่องปรุง ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน หรือ ทิชชู่ เพราะเป็นสินค้าที่ต้องใช้อยู่ตลอด ทำให้ลูกค้ามักจะเลือกจากความคุ้มค่าของราคาเป็นหลัก ดังนั้นแล้วกลยุทธ์การตั้งราคาต่ำ หรือราคาประหยัดนั้นจะทำให้ลูกค้าตัดสินใจที่จะซื้อเร็วขึ้นและซื้อในปริมาณที่มากขึ้นสินค้าราคาประหยัดนั้น มักจะได้ผลกับธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ที่วางขายสินค้าในห้างสรรพสินค้า อย่างเช่น Tops, Lotus หรือ Big C เพราะกลยุทธ์การตั้งราคาแบบประหยัดจะทำให้กำไรต่อการขายต่ำลง แต่ว่าเกิดปริมาณการซื้อที่มากขึ้น สำหรับธุรกิจเล็กๆนั้นอาจจะไม่เหมาะที่จะใช้กลยุทธ์นี้เพราะอาจจะทำให้เกิดการขาดทุน หรือ สินค้าอาจดูไม่น่าเชื่อถือได้
Pricing Strategy แบบกวาดตลาด
สำหรับธุรกิจที่ต้องการจะดันยอดขายสำหรับสินค้าใหม่เพื่อไปสู่จุดสูงสุดและกลายเป็นผู้นำของตลาดให้ได้นั้น กลยุทธ์นี้คือการตั้งราคาในระดับที่สูงไว้ในช่วงแรก หลังจากนั้นลดราคาลงให้เท่ากับคู่แข่งในตลาด ข้อดีของกลยุทธ์การตั้งราคาแบบนี้ก็คือทำให้บริษัทนั้นสามารถกอบโกยกำไรได้ในช่วงแรกและหลังจากนั้นดึงดูดผู้บริโภคที่มีความอ่อนไหวด้วยการลดราคาสินค้า ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กที่กำลังเติบโตสามารถทำกำไรคืนได้ในช่วงแรก และยังช่วยสร้างยอดขายในช่วงที่สินค้ากำลังเข้าสู่ตลาดให้เป็นที่รู้จักและติดตลาดได้เร็วขึ้น
Pricing Strategy แบบอาศัยหลักจิตวิทยา
ในยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคือง การตั้งราคาสินค้าให้ดึงดูดผู้บริโภคได้นั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคนั้นเกิดความรู้สึก ตื่นเต้นและช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้ การนำหลักจิตวิทยามาช่วยกระตุ้นความรู้สึกของผู้บริโภคจะทำให้คนซื้อใช้ความรู้สึกมากกว่าเหตุผล เช่น หากสินค้าราคา 100 บาท การตั้งราคาอย่าง 99 บาท จะน่าดึงดูดกว่า ทำให้คนรู้สึกว่าได้ซื้อสินค้าราคาหลักสิบหรือจ่ายไม่ถึงร้อย เพราะคนมักจะให้ความสนใจกับตัวเลขที่อยู่ด้านหน้ามากกว่าตัวเลขด้านหลัง
Pricing Strategy แบบจับคู่สินค้าลดราคา
การนำสินค้าหลายชนิดมาจัดเป็นแพคเกจและขายในราคาถูกที่ผู้บริโภคนั้นไม่สามารถหาซื้อราคานี้ได้จากที่ไหน วิธีการนี้จะส่งผลดีสำหรับสินค้าบางชนิดที่ขายออกได้ยาก และทำให้ปัญหาการจัดเก็บ หรือ การจัดสต็อคสินค้า นั้นลดลง นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้บริโภคได้เห็นสินค้าของคุณมากขึ้น การจับคู่สินค้าลดราคานั้นเหมาะสำหรับธุรกิจที่มี สินค้าหลากหลายชนิด เช่น 7-eleven ที่มีการจับคู่ชุดอาหารเช้า อย่าง นมถั่วเหลืองกับขนมปังแซนวิช หรือ การซื้อแชมพูคู่กับครีมนวดผมในราคาที่ถูกกว่า สำหรับธุรกิจขนาดเล็กสามารถปรับใช้ได้ด้วยการ เพิ่มสิทธิพิเศษให้กับลูกค้า อย่างเช่น ลูกค้าที่มาทานอาหารในวันพุธจะได้รับของหวานสุดพิเศษฟรี เพื่อเป็นการคงมูลค่า และ รักษาคุณภาพและความเชื่อมั่นของธุรกิจต่อไปการตั้งราคาสินค้านั้นเป็นสิ่งที่สำคัญในการทำธุรกิจ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือการมองคู่แข่งและสถานการณ์ของตลาดให้ขาด เพื่อให้คุณนั้นรู้จักปรับใช้กลยุทธ์การตั้งราคาได้ตรงกับประเภทสินค้าและกลุ่มเป้าหมาย หลังจากตั้งราคาได้ถูกต้องแล้วอย่าลืมทำบัญชีอย่างเป็นระบบ เผื่อในกรณีที่ต้องการขอระดมทุนเพื่อขยายกิจการกับเพียร์ พาวเวอร์จะได้มีเอกสารที่เรียบร้อยค่ะ
คำเตือน : การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงผ่านเพียร์ พาวเวอร์ เป็นการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจเพียงพอทั้งด้านความเสี่ยง และความสามารถในการตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง ความเสี่ยงในที่นี้หมายถึงความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของหลักทรัพย์และความเสี่ยงในการสูญเสียเงินจากการลงทุน การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงเป็นการลงทุนที่เหมาะสมกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุน นักลงทุนจะสามารถเริ่มลงทุนได้ต่อก็ต่อเมื่อนักลงทุนทำการลงทะเบียนและผ่านแบบประเมินความรู้ความเข้าใจในการลงทุนแล้ว