Success Strategy

"ลดต้นทุน" ยังไงให้กำไรเพิ่มขึ้น?

by
PeerPower Team
March 15, 2024

"ลดต้นทุน" ยังไงให้กำไรเพิ่มขึ้น?

ส่วนใหญ่พอพูดถึงการลดต้นทุน หลายเทคนิคจะพูดถึงการตัดค่าใช้จ่ายยิบย่อยออกจากบัญชีแบบ cost saving ซึ่งได้ผลจริง แต่อาจจะไม่เป็นประโยชน์กับธุรกิจในระยะยาวโดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องการสร้างความเติบโต

ดังนั้นวันนี้บทความ Success Strategy เราจะมาคุยกันเรื่องเทคนิคการลดต้นทุนที่หลายคนไม่พูดถึง เป็นการลดต้นทุนที่โฟกัสการบริหารกระแสเงินสด และเป็นวิธีที่สามารถนำไปปรับใช้ได้กับหลายธุรกิจ โดยเฉพาะ ธุรกิจประเภทผู้ผลิต (Manufacturer) และ ผู้จัดจำหน่าย (Distributor) จะมีวิธีอะไรบ้างอ่านต่อได้จากด้านล่าง

ความจริงที่คนไม่รู้เกี่ยวกับการลดต้นทุน

คีย์สำคัญของเทคนิคนี้ คือการรักษากระแสเงินสดและต่อยอดเงินทุนหมุนเวียน 

ธุรกิจแต่ละประเภทจะมีกระแสเงินสดต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจนั้น ๆ มีรายรับ-รายจ่ายผูกอยู่กับอะไรบ้าง ขอยกตัวอย่าง เช่น 

  1. ธุรกิจผู้จัดจำหน่าย (Distributor) รายจ่ายหรือทุนมักจะจมอยู่กับสต็อกสินค้า ค่าดำเนินการร้านค้า (กรณี modern trade)  ค่าเช่าโกดัง ค่าจัดส่งสินค้า ฯลฯ
  2. ธุรกิจผู้ผลิต (Manufacturer) รายจ่ายมักจะจมอยู่กับวัตถุดิบ ค่าเครื่องจักร ค่าอุปกรณ์ ค่าแรงงาน ฯลฯ

ธุรกิจที่มีรายรับและรายจ่ายสมดุล คือธุรกิจที่มีสภาพคล่องดี มีกำลังจ่าย สามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น

แต่ปัญหาจะมาอยู่ที่ “สภาพคล่องอาจจะไม่ได้ดีอย่างที่คิด” เพราะธุรกิจบางประเภทมักซื้อขายกันเป็นเงินเชื่อ กว่าลูกค้าจะจ่ายเงินก็นานแสนนาน ดังนั้นหลายธุรกิจจึงต้อง “ควักกระเป๋าตัวเอง” เป็นทุนหมุนเวียนจ่ายค่าล่วงหน้าไปก่อน 

ไม่ใช่ว่าการควักกระเป๋าตัวเองไม่ดี แต่หลายครั้งสิ่งนี้ทำให้เจ้าของกิจการหมดโอกาสเอาเงินไปพัฒนาส่วนอื่น ๆ ที่สำคัญต่อธุรกิจจริง ๆ 

เช่น แทนที่จะได้เอาเงินส่วนนี้ไปซื้อของมาทำกำไรเพิ่มกลับกลายเป็นว่าต้องเอามาใช้สำรองจ่ายเงินแทนลูกค้า หรือบางทีได้ดีลธุรกิจกับลูกค้าใหม่ ๆ ก็จำเป็นต้องรอเพราะยังขาดเงินจะไปตุนสต็อกให้เขา

การที่ธุรกิจมีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอจะทำให้ธุรกิจมีสภาพคล่องดี โอกาสในการปิดดีลทำกำไรก็ย่อมมากกว่า โดยปกติแล้ววิธีทำให้เงินทุนหมุนเวียนเพียงพอจะแบ่งได้เป็น 2 วิธีคือ 

  1. ลดค่าใช้จ่ายออกจากบัญชี ซึ่งเป็นคำแนะนำแรก ๆ ที่หลายคนจะได้รับ
  2. เติมเงินเข้ามาหมุน ซึ่งเป็นวิธีที่บริษัทใหญ่นิยมทำ เราจะเล่าต่อในหัวข้อถัดไป

กู้เงินแล้วลดต้นทุนได้อย่างไร? 

ธุรกิจที่โตแบบก้าวกระโดดส่วนมากมักมีสภาพคล่องดี และแน่นอนว่าสภาพคล่องนี้ไม่ได้เกิดเพราะควักกระเป๋าตัวเอง 

สาเหตุที่ธุรกิจเหล่านี้มีสภาพคล่องดี ก็เพราะส่วนมากมักใช้เงินทุนจากแหล่งอื่น ๆ มาบริหาร (ไม่ได้ใช้แค่เงินธนาคารเท่านั้น)

กรณีอย่างบริษัทมหาชนเงินทุนหมุนเวียนมักมาจากนักลงทุน บริษัทขนาดรองลงมาก็มักมีเงินจาก venture capital หรือนักลงทุน angel investor มาหมุนเวียน แม้กระทั่งสตาร์ทอัพก็มักระดมทุนคราวด์ฟันดิงจากนักลงทุนรายย่อยเสมอ (อ่านเกี่ยวกับการระดมทุนคราวด์ฟันดิงที่นี่ คลิก) 

ดังนั้นนอกจากการกู้เงินธนาคารแล้ว ผู้ประกอบการสามารถพิจารณาแหล่งหาเงินทุนอื่น ๆ มาใช้ควบคู่ได้ตราบเท่าที่ดอกเบี้ย และเงื่อนไขการชำระสอดคล้องกับกระแสเงินสดของบริษัท เช่น ถ้าเงินเข้าทุก 3 เดือนแต่ต้องจ่ายเงินคืนทุกเดือน อันนี้ก็อาจจะไม่ไหว

การเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนมีประโยชน์กับธุรกิจหลายข้อ อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้เรามีโอกาสแข่งขันก่อนคนอื่น ส่วนอีกข้อคือทำให้เราลดต้นทุนโดยทำกำไรได้มากขึ้นด้วยเทคนิคข้างล่าง 

ลดต้นทุนโดยการซื้อของมากขึ้นได้อย่างไร? 

วิธีนี้ได้ผลกับทั้งธุรกิจผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่าย

กรณีของธุรกิจผู้ผลิตที่มีซัพพลายเออร์เจ้าประจำวิธีนี้จะเหมือนกับการซื้อของเหมาโหล

Bulk Purchase คือ การซื้อของล็อตใหญ่ทีเดียวเยอะ ๆ เพื่อนำไปผลิตต่อ สิ่งที่ต้องมีคือทุนที่มากพอจะไปสั่งของล่วงหน้า

ข้อดีคือผู้ประกอบการจะได้วัตถุดิบมากขึ้นเพื่อผลิตมากขึ้น สัดส่วนกำไรก็แนวโน้มที่จะเพิ่มตาม แต่ข้อควรระวังคือ ต้องรู้ให้แน่ว่าจะมีความต้องการในการซื้อสินค้าเพิ่มเช่นกัน เพราะหากซื้อของไปแต่ผลิต-ขายได้เท่าเดิมวิธีนี้จะทำให้ขาดทุนทันที ดังนั้นหากเดือนไหนสามารถคาดการณ์ได้ว่าออเดอร์สินค้าจะเพิ่มขึ้น ก็สามารถใช้วิธีนี้ไปต่อรองกับซัพพลายเออร์ได้

กรณีของผู้จัดจำหน่ายเช่นกัน วิธีนี้จะเหมือนกับการตุนสต็อกเพื่อส่งลูกค้ามากกว่า 1 เจ้า หากปกติมีลูกค้าเจ้าเดียวเป็นตลาดหลัก การเพิ่มทุนหมุนเวียนเพื่อตุนสต็อกล่วงหน้าจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถขยายตลาดไปยังร้านค้าปลีกอื่น ๆ ได้ กำไรก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นพร้อมตลาดที่กว้างขึ้น ข้อควรระวังคือควรมีลูกค้าอยู่ในมือ ไม่อย่างนั้นสินค้าจะค้างสต็อกและเสียค่าเช่าฟรี ๆ 

ลดต้นทุนโดยการจ่ายเร็วขึ้นได้อย่างไร?

ซัพพลายเออร์ส่วนใหญ่มักซื้อขายกันด้วยเงินเชื่อและเครดิตเทอม ต้องรอนานกว่าลูกค้าจะจ่ายเงิน ดังนั้นเพื่อให้ไม่เสียเปรียบหลายเจ้าเลยชาร์จราคาเพิ่มตามระยะเวลาที่จ่ายช้า 

กรณีนี้เราสามารถขอต่อรองจ่ายเร็วขึ้นเพื่อแลกกับส่วนลด เช่น หากปกติเครดิตเทอมคือ 3 เดือน อาจขอต่อรองจ่ายเร็วขึ้น 1 เดือนแลกกลับส่วนลด 5% ซึ่งหากคิดเป็นปีก็สามารถประหยัดต้นทุนไปได้ 60% ส่วนต่างที่เหลืออาจพิจารณาเป็นกำไรได้เช่นกัน 

สรุป 

วิธีลดต้นทุนเพื่อเพิ่มกำไรทำได้โดยการเพิ่มทุนหมุนเวียนเพื่อมาบริหารกระแสเงินสด แล้วใช้กระแสเงินสดนั้นเพิ่มความสามารถและโอกาสทางการค้าโดยตุนสต็อกหรือเจรจาจ่ายเร็วขึ้นเพื่อแลกกับส่วนลด

สองวิธีนี้เป็นตัวอย่างโอกาสที่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อผู้ประกอบการมีกระแสเงินสดเพียงพอ หรือหากต้องการเงิน PeerPower เป็นแพลตฟอร์มช่วยผู้ประกอบการระดมทุนคราวด์ฟันดิง ใครสนใจสามารถอ่านเกณฑ์การสมัครได้ที่นี่ (คลิก)

บล็อกหน้าเราจะคุยเรื่องอะไรกันอีก โปรดรอติดตาม สนใจระดมทุนคราวด์ สมัครได้ที่ลิ้งด้านล่าง 

Author
PeerPower Team

สู่เป้าหมายทางการเงินที่ไกลขึ้น

ลงทุนและระดมทุนเพื่อธุรกิจผ่านคราวด์ฟันดิงกับ PeerPower
สมัคร