กฎ 72 เทคนิคลงทุนเปลี่ยนเงินแสนเป็นเงินล้าน

กฎข้อหนึ่งของการลงทุนคือเริ่มก่อนได้เปรียบ เพราะประโยชน์จาก "ดอกเบี้ยทบต้น" จะทำให้เงินของเรายิ่งเพิ่มทวีคูณ แต่เคยสงสัยมั้ยว่าต้องใช้เวลากี่ปี กว่าเงินในบัญชีจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า? หรือคิดอยากจะมีเงินสักก้อนก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงเงินถึงจะโตคูณ 2?

คำถามน่าปวดหัวนี้คงเกิดกับหลายคน แม้จะงัดสูตรมาคำนวณแต่ตัวเลขก็ซับซ้อนเข้าใจยาก วันนี้ PeerPower จะแนะนำ “สูตรลัด” ที่ช่วยให้นักลงทุนวางแผนให้เงินโตขึ้นเป็น 2 เท่าได้ง่าย ๆ ด้วยกฎ 72

‍

กฎ 72 คืออะไร?

กฎ 72 (Rule 72) คือสมการที่ใช้หา “ระยะเวลา” และ “อัตราผลตอบแทน” ที่จะทำให้เงินเติบโตขึ้นเป็น 2 เท่า

มีสูตรคือ  72 / อัตราผลตอบแทน  = ระยะเวลา ตามรูปข้างล่าง

‍

กฎ 72 มาจากไหน?

บางคนบอกว่ากฎ 72 มาจากไอสไตน์ แต่อันที่จริงไม่มีหลักฐานว่าใครเป็นผู้คิดค้นกฎนี้ขึ้นมากันแน่ แต่คนที่กล่าวถึงกฎนี้เป็นคนแรกคือนักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลีนามว่า Luca Pacioli ซึ่งเขียนถึงเรื่องนี้ไว้ในตำราที่เขาเขียนตั้งแต่ปี 1494 หรือ 500 กว่าปีมาแล้ว! 

‍

วิธีการใช้กฎ 72?

เพียงแค่ใช้เลข 72 เป็นตัวตั้ง เราก็สามารถคำนวณระยะเวลาและอัตราผลตอบแทนที่เป็นเป้าหมายในการมีเงินเก็บทวีคูณได้ง่าย ๆ ตัวอย่างเช่น

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วโทนี่ฝากเงินไว้ 500,000 บาท มีอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 0.25% ต่อปี (คิดแบบเบสิกตามอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารทั่วไป) อยากรู้ว่าอีกกี่ปีเงิน 500,000 ถึงจะเพิ่มเป็น 1,000,000 ก็นำ 72 หารด้วย 0.25 คำตอบคือ ต้องใช้เวลา 288 ปี กว่าเงินของโทนี่จะเพิ่มเป็น 2 เท่า...ซึ่งนานมาก ตายจนเกิดใหม่ก็อาจจะไม่ได้ใช้

ทีนี้สมมุติว่าเราอยากมีเงินล้านก่อนเกษียณ อยากรู้ว่าต้องมีอัตราผลตอบแทนเท่าไหร่ถึงจะมีเงินเก็บทันเวลา เราก็แค่ย้ายข้างสมการ เอา 72 หารด้วยจำนวนปี ก็จะได้อัตราผลตอบแทนที่ต้องทำให้ได้ ตัวอย่างเช่น 

โทนี่คนดีคนเดิมรู้ดีว่าอีก 20 ปีตัวเองจะเกษียณ ตอนนี้มีเงินเก็บ 500,000 บาท อยากจะให้เงินเพิ่มเป็น 1,000,000 ก็นำ 72 มาหารด้วย 20 คำตอบคือ โทนี่ต้องไปหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 3.6% ถึงจะมีเงินเพิ่มสองเท่าทันเวลา… ลองไปใส่ตัวเลขคำนวณเล่น ๆ ได้ในที่นี่

วิธีสร้างเงินล้าน?

อ่านแล้วก็ท้อ เพราะทำไมมันนานเหลือเกิน!? เราต้องเป็นสิบ ๆ ปีเลยหรือกว่าเงินจะเงินจะทบต้น มีวิธีอื่นที่เร็วกว่านี้มั้ย? คำตอบคือ มี ถ้าอยากได้เงินเยอะในเวลาที่สั้น เราเพียงแค่ต้องหาสินทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง ซึ่งแน่นอนว่ามาพร้อมความเสี่ยงเช่นกัน ดังนั้นการกระจายความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญ

หรือหากกังวลว่าเศรษฐกิจที่ผันผวนตลอดเวลาจะทำให้สินทรัพย์ที่ลงทุนได้รับผลกระทบ หุ้นกู้คราวด์ฟันดิงก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเพราะเป็นสินทรัพย์นอกตลาดหลักทรัพย์ (private asset) ไม่ได้รับผลกระทบจากการผันผวนของตลาดหุ้น และให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ นอกจากนี้หุ้นกู้ของ PeerPower ยังให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยถึงปีละ 11.78 % (ถ้าพี่โทนี่ลงทุนในหุ้นกู้กับ PeerPower แค่ 6 ปีนิด ๆ ก็มีเงินล้านแล้วนะนี่)

ถ้ายังไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับการลงทุนแบบไหน ลองศึกษาจากบทความ Investment Asset เลือกอย่างไรให้เหมาะกับเรา เพื่อประกอบการตัดสินใจได้เช่นกัน 

PeerPower เป็นแพลตฟอร์มคราวด์ฟันดิงที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถระดมทุนจากนักลงทุนได้ผ่านการออกหลักทรัพย์ (หุ้นกู้ หรือหุ้น) และอยู่ในการกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

‍