Time Value of money คืออะไร ทำไม SME ควรศึกษา
การบริหารจัดการการเงินนั้น เป็ นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเกิดกำไร และมีเงินในการหมุนเวียนกิจการต่อไปได้ วันนี้เพียร์ พาวเวอร์มีอีกหนึ่งวิธีการ ที่จะทำให้บริหารจัดการการเงินของธุรกิจคุณมีประสิทธิภาพ และใช้ประโยชน์จากมูลค่าของเงินได้อย่างเต็มที่
Time Value of Money คืออะไร? มาทำความเข้าใจไปพร้อมๆกัน
Time Value of Money คือ มูลค่าของเงินเมื่อเวลาผ่านไป เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่มองเห็นว่าคุณค่าของเงินในปัจจุบันนั้นอาจจะถูกลดทอนค่าเงินลงเมื่อเวลาผ่านไป
Time Value of Money เป็น อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการบริหารการเงิน การที่จะทำให้เงินทำงานด้วยตัวเอง และออกดอกออกผลได้จริงๆนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ หลายคนนำลงเงินไปลงทุน แต่ก็กลับเสียมากกว่าที่จะได้มา
นอกจากนี้ Time Value of Money ยังสามารถมองในมุมกลับได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณพบโปรโมชั่นจ่ายเงินสดลด 3% หรือ เลือกที่จะจ่ายผ่านบัตรเครดิต ซึ่งคุณสามารถชำระเงินหลังจากนี้ได้สูงสุดถึง 55 วัน ประโยชน์จากการจ่ายด้วยเงินสด หรือ ประโยชน์จากการชำระบัตรเครดิตนั้นก็ถือเป็น Time Value of Money ด้วยกันทั้งนั้น
จุดเริ่มต้นของแนวคิด Time Value of Money
แนวคิดเรื่อง Time Value of money เกิดขึ้นจากนักลงทุนกลุ่มหนึ่งที่มักจะมีความคิดว่าอยากที่จะได้เงินทันที ตอนนี้ หรือ ในปัจจุบันมากกว่าที่จะต้องรอรับเงินในจำนวนที่เท่ากันในอนาคต สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่า เงินนั้นมีความสามารถที่จะเติบโตหรือเพิ่มมูลค่าขึ้นได้เมื่อเวลาผ่านไปยกตัวอย่างง่ายๆ เมื่อคุณฝากเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ คุณก็จะได้รับดอกเบี้ยจากการฝากเงิน ดอกเบี้ยที่คุณได้นี้ก็ถือเป็นมูลค่าอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นจากระยะเวลาที่ผ่านไป หรือสมมติว่าคุณมี 2 ทางเลือกระหว่าง รับเงิน 100,000 บาท ตอนนี้กับ รับเงิน 100,000 บาทในอีก 2 ปีข้างหน้า แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่นั้นก็จะต้องเลือกทางเลือกที่ 1 และรับเงินในวันนี้ นั่นก็เพราะว่ามูลค่าของเงิน 100,000 บาท ในปัจจุบันนั้นมีมูลค่า หรือมีความสามารถในการทำประโยชน์ได้มากกว่าในอนาคต หรือที่เรียกว่า “ค่าเสียโอกาส” (Opportunity Costs)ซึ่ง Opportunity Costs หรือ ค่าเสียโอกาส นี้ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่ค่าเสียเวลาที่เราต้องรอในระยะเวลา 2 ปีเพื่อให้ได้รับเงินจำนวนเท่าเดิม แต่ยังรวมถึงโอกาสต่างๆที่คุณจะสามารถนำเงินก้อนนี้ไปบริหาร หรือ ทำประโยชน์อื่น ๆ ได้อีก
ทฤษฎีการหา Time Value of Money ที่ SME ควรรู้เบื้องต้น
การคิดหามูลค่าของเงินที่เสียไปนั้นมีปัจจัยหลายอย่างที่เป็นตัวกำหนด เช่น การคิดดอกเบี้ยแบบรายปี หรือ รายเดือน สูตรการหาโดยทั่วไปนั้น จะไม่ได้มีปัจจัยที่หลากหลายเหมือนในชีวิตจริง แต่ก็มีหลายคนที่นำสูตรนี้ไปประยุกต์ใช้กับการทำบัญชี หรือ งบประมาณจริงๆ
สูตรการหามูลค่าของเงินในอนาคต
FV = PV x [ 1 + (i/n) ]^(n*t)
T = จำนวนปี
N = จำนวนงวดที่จ่ายดอกเบี้ยต่อ 1 ปี
I = interest rate หรือ อัตราดอกเบี้ยที่ควรจะได้รับ
PV = Present value of money หรือ มูลค่าของเงินในปัจจุบัน
FV = Future value of money หรือ มูลค่าของเงินในอนาคต
ตัวอย่างการคำนวณ
สมมติให้ลงทุนเงิน 10,000 เป็นระยะเวลา 5 ปีด้วยอัตราผลตอบแทน 10% จ่ายดอกเบี้ยเมื่อครบสิ้นปี มูลค่าของเงินในอนาคตจะเท่ากับ
FV = 10,000 x (1 + (10% / 1))^(1x5) = 16,105.1
ยิ่งจำนวนงวดที่จ่ายดอกเบี้ยมากเท่าไหร่นั่น ยิ่งทำให้มูลค่าของเงินในอนาคตมากขึ้นไปด้วย เพราะ ดอกเบี้ยที่ถูกจ่ายออกมาจะถูกนำไปคิดเป็นดอกเบี้ยในงวดถัดไปเพิ่มขึ้น หรือ ที่เราเรียกว่า อัตราดอกเบี้ยทบต้น นั่นเอง
การใช้ Time Value of Money กับธุรกิจ SME
ถ้าหากว่าเจ้าของกิจการ มีความเข้าใจถึงมูลค่าของเงินในอนาคต ก็จะสามารถนำเงินทุนที่มีนี้ไปทำประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ เช่น หากมีกำไรจากการค้าขาย ไม่ควรที่จะปล่อยให้อยู่ในบัญชีเฉย ๆ ควรกระจายเงินลงทุนไปหลายส่วน ๆ เพื่อให้มีรายได้จากเงินปันผล หรือ อัตราดอกเบี้ยทำให้มีการเดินบัญชี หรือ ลงทุนซื้อเครื่องจักร หรือ วัตถุดิบ เพื่อการขยายกิจการ ที่บอกถึงสภาพคล่องที่ดีของการเงินบริษัทได้
ขอบคุณข้อมูลจากwww.investopedia.com
_______________________________________________________________________
คำเตือน : การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงผ่านเพียร์ พาวเวอร์ เป็นการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจเพียงพอทั้งด้านความเสี่ยง และความสามารถในการตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง ความเสี่ยงในที่นี้หมายถึงความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของหลักทรัพย์และความเสี่ยงในการสูญเสียเงินจากการลงทุน การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงเป็นการลงทุนที่เหมาะสมกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุน นักลงทุนจะสามารถเริ่มลงทุนได้ต่อก็ต่อเมื่อนักลงทุนทำการลงทะเบียนและผ่านแบบประเมินความรู้ความเข้าใจในการลงทุนแล้ว